“ดีเจเชาเชา” เปิดตัวลูกสาวครั้งแรก เผยชีวิตที่เปลี่ยนไป หลังมี “น้องลียา”

เชาเชา : ตอนนั้นพี่เชาได้พากย์กังฟูแพนด้า เป็นตัวหมีแพนด้าพระเอกของเรื่องมา 4 ภาคแล้ว เป็นตัวอาโป วันนั้นอัดเสียงกัน อยู่ระหว่างช่วงทำงาน พาเขาไปห้องอัดด้วย เขาไปนั่งห้องโปรดิวเซอร์เวลาอัดเสียง เขาจะดูเวลาพี่พากย์ เขาก็มีความสุข เขาจะเรียนรู้ไปเรื่อยๆ มีวันนึงพี่โปรดิวเซอร์เขาถามว่าพี่เชาลูกพี่เสียงโอเคมั้ย ก็ให้เขาเทสวันนั้นเลย มีตัวเล็กตัวน้อย เป็นเสียงเด็กตัวเล็กๆ เป็นหมู่มวลเวลาเราเข้าไปในหมู่บ้านจะมีตัวเล็กตัวน้อยเป็นสัตว์บ้าง กระต่าย เต่า โน่นนี่นั่น ก็จะวิ่งมาหาตัวแพนด้าแล้วพูด

ภูมิใจกับน้องขนาดไหน?

เชาเชา : ทึ่งในความสามารถของเขา ชอบความกล้าแสดงออก เขาทำออกมาเป็นธรรมชาติ ไม่เคอะเขินเลย ทุกครั้งที่เขาทำมาแล้วมีความสุข เราก็แฮปปี้ เหมือนเราได้เห็นเด็กคนนึงที่เขาไม่สามารถทำอะไรตรงนี้ได้ด้วยอายุเท่านี้ แต่เขาทำให้เราเห็นว่าถ้าเขาสนใจเขาก็สามารถทำได้ นี่คือความภาคภูมิใจ ทุกครั้งเรามีรีวิวของ มันเป็นธรรมชาติมากๆ เวลาเขาช่วยพี่เชารีวิว หรือไปงานต่างๆ ถ้าต้องให้น้องลียาสัมภาษณ์ จะมีคำออกมาจากปากของเขาเอง โดยเราไม่นึกไม่ฝัน ซึ่งเรารู้สึกว่ามันน่ารักมากๆ

น้องได้ซึมซับสิ่งที่พี่เชาทำไปด้วย เป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น โตขึ้นไปลียาอยากทำอะไร?

ลียา : เป็นดาราช่วยพ่อแม่หาเงินค่ะ

เชาเชา : สุดยอดเลยลูก (หัวเราะ) แมสเสจนี้แม่เขาป้อนเข้ามา (หัวเราะ)

ลียา : หนูพูดเองค่ะ หนูอยากลองเป็นดาราดูค่ะ

กลัวเหนื่อยมั้ย?

ลียา : ไม่ค่อยกลัวค่ะ

นอนน้อยได้มั้ย?

ลียา : ไม่ได้ค่ะ

ได้นอนวันละไม่กี่ชม.นะ?

เชาเชา : ไหวมั้ยลูก

ลียา : ไหวค่ะ

เป็นดาราในความเข้าใจของลียา คิดว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง?

ลียา : เขาต้องร้องเพลงค่ะ หนูร้องเพลงได้อยู่ค่ะ

ถ้าลูกเป็นดารา พี่เชาโอเคมั้ย?

เชาเชา : พี่ก็จะเป็นผู้จัดการดารา ถ้าเขาชอบ รักด้านการแสดง เขาแฮปปี้มีความสุข ไม่เสียการเรียน ก็สนับสนุนเต็มที่ แต่ถ้าเมื่อไหร่เขาเริ่มไม่ชอบ ไม่อยากไป เริ่มเสียการเรียน ก็จะไม่สนับสนุน อยู่ที่ความสามารถของเขาด้วย เราสนับสนุนเต็มที่

พี่พร้อมผลักดันน้องถ้าน้องต้องการ?

เชาเชา : แต่การศึกษามาอันดับแรกก่อน ถ้ามีงานก็อาจดูว่าตรงกับวันเรียนมั้ย อาจไปรับให้ตรงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ก็ไม่ให้กระทบการเรียนเขา

ไปเรียนกับเป็นดารา เลือกอะไร?

ลียา : ดาราค่ะ

นักร้องกับดาราอยากเป็นอะไร?

ลียา : ดาราค่ะ แต่ร้องเพลงได้ค่ะ

ไม่รู้มาก่อน อยู่ดีๆ วันนึงพี่เชาจูงลูกสาวมาตอนจัดรายการ พี่เชามีลูกตอนไหน?

เชาเชา : ย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว พี่สาวแฟนเขามีน้องลียา เราเจอน้องลียาตั้งแต่ 7 เดือน ตอนนั้นวางแผนจะมีน้องกับแฟน แฟนเขาชอบเด็ก ชอบเลี้ยงเด็กมาแต่ไหนแต่ไร เขาก็มาปรึกษาว่าอยากเอาลียามาเลี้ยงได้มั้ย พอน้องโตเราก็ให้น้องเขากลับบ้าน พี่เชาก็บอกว่าดีเหมือนกัน เราก็เหมือนเป็นการซ้อมมีน้องไปด้วย ตอนนั้น 7 เดือน นมก็ต้องป้อนตลอด เหมือนเด็กเกิดใหม่ พอรับปากเสร็จ แฟนก็ไปรับน้องลียามา ก็เริ่มดูแลเขาตั้งแต่วันนั้นเลย ตั้งแต่เขา 7 เดือน ทำทุกอย่างเหมือนพ่อคนนึงที่เลี้ยงลูกมาตั้งแต่เล็กๆ เราก็ไม่เคยมี เมื่อก่อนไปเที่ยวโน่นนี่กลับบ้านดึก พอเริ่มมีเขา ความรู้สึกมันเปลี่ยน เราห่วงคนๆ นึงอีกหนึ่งชีวิตที่อยู่ที่บ้าน ได้ใช้เวลาร่วมกันนานๆ ตอนหลังเริ่มเที่ยวน้อยลง เลิกงานแล้วกลับบ้านเลย ถ้าพี่เชาไปข้างนอก ตอนนี้คุณแม่ไม่ต้องตามแล้ว เขาจะเป็นคนโทรตาม ป๊าเปิดกล้อง ป๊าอยู่ไหน หันกล้องให้ดูรถติดด้วย

ลูกตามหรือแม่ให้ตาม?

ลียา : หนูตามเองค่ะ

คุยกับเขาทุกเรื่องมั้ย?

เชาเชา : เราบอกเขาทุกเรื่อง เราจะบอกเขาว่าถ้าอยู่ที่นี่จะมีป่ะป๋ากับหม่าม้า ถ้ากลับไปพัทยา จะมีแดดดี้ มีแม่ และมีน้องด้วย ตอนนี้แม่เขามีน้องใหม่อีกคน เป็น 3 คน เขาก็จะเข้าใจว่าเขามี 2 บ้าน เราสอนเขาตลอด ถ้าเวลาเขาปิดเทอมเขาก็กลับไปหาพี่สาวและน้องสาวเขา ไปอยู่กับครอบครัว เวลาคิดถึงก็คอลกัน แต่บางทีมันเหงา เขาอยู่กับเราตลอด เวลาอยู่กันสองคนกับแฟน รู้สึกว่าบ้านมันเงียบ ตกเย็นไม่ได้แล้วก็จะโทรหาเขา คิดถึง

ทางกฎหมายมีการเซ็นรับรองเป็นลูกบุญธรรมมั้ย?

เชาเชา : ตอนนี้ยังครับ ด้วยใจมากกว่า เราดูแลเขาด้วยความรัก ดูแลเขาเหมือนลูกคนนึง ไม่ว่าเขาอยากได้อะไรเราก็ดูแลเต็มที่ เรื่องการศึกษาก็เต็มที่ ถือว่าเราทำหน้าที่พ่อแม่แบบเต็มที่ อนาคตก็ว่ากันอีกครั้ง

พี่เชาอยากมีลูก ตอนนี้อยากมีลูกเพิ่มอีกมั้ย?

เชาเชา : เราก็คิดครับ อยากมีลูก ตอนนี้เริ่มปรึกษากับแฟนว่าอยากมีภายในปีหน้า ด้วยอายุเราทั้งสอง น่าจะพร้อมแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวขบวนสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวจะมีไม่ได้ อยากมีเป็นของตัวเอง ใจจริงอยากมีลูกแฝดเลย ได้หมด น้องลียาให้ป่ะป๊ามีลูกมั้ย

ลียา : ไม่ อยากให้ป๊ามีหนูคนเดียว

เชาเชา : ลียาจะได้เป็นพี่ไง

ลียา : ได้